มีเรื่องอยู่เรื่องนึงที่ผมอยากจะเล่าถึงประสบการณ์ที่ผมประทับใจมากที่อยากจะเล่าให้ทุกๆคนได้ฟัง มาฟังกันดูนะครับ
เมื่อ 20 กว่าปี ที่ผ่านมาในขณะนั้นผมยังทำหน้าที่ของ "เซลส์แมน" อยู่วันนั้นเป็นเวรประจำโชว์รูมมาทำงานแต่เช้ารับผิดชอบดูแลความสะอาดของรถโชว์ภายในโชว์รูมเหมือนกับเซลส์อื่นๆทั่วไป
ทำหน้าที่เช็ดรถทำความสะอาดอย่างตั้งใจไม่ใช่เพียงแค่เช็ดถูไปอย่างนั้นที่พอให้เสร็จไป
ในขณะทำความสะอาดรถไปสายตาก็เหลือบมองออกไปทางด้านหน้าโชว์รูมอยู่เสมอ ทันใดนั้นสายตาของผมก็เหลือบไปเห็นชายชราแก่ๆคนนึ่ง เดินออกกำลังกายผ่านหน้าโชว์รูมรถยนต์ เป็นปกติทุกๆเช้าแกเป็นคนจีนที่ชราอายุน่าจะประมาน 70 กว่าปี ผมเห็นแกจนชินตาอย่างนี้เป็นประจำในทุกเช้า
ด้วยความที่เป็น "เซลส์แมน" ที่จะต้องเป็นคนพูดจาปราศัยดีและต้อนรับลูกค้าทุกท่านโดยไม่เลือกว่าลูกค้าท่านนั้นจะเป็นใคร? ผมวางมือจากการทำความสะอาดรถทันที ดูว่าตังเองแต่งกายเรียบร้อยดีหรือยังแล้วจึงออกไปเปิดประตูโชว์รูม ผมถาม "อาแปะ" ว่าจะรับน้ำชาร้อนๆหรือน้ำเย็นๆครับ "ฉันขอเป็นน้ำชาร้อนๆก็แล้วกัน" พอได้น้ำชาร้อนๆผมก็รินน้ำชาส่งให้อาแปะ อาแปะรับน้ำชาไว้ผมก็ขออนุญาตไปทำหน้าที่เช็ดรถที่ค้างอยู่ต่อ แต่ก็ไม่ลืมที่จะดูว่าอาแปะต้องการอะไรเพิ่มเติม
พอกินน้ำชาเสร็จอาแปะก็ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินตรงมาหาผมบอกกับผมว่า "ไอ้ตี๋ ! ฉันขอขอบใจนะที่ดูแลฉันเป็นอย่างดี บังเอิญว่าฉันอยากจะได้รถใช้สักคันอีกประเดี๋ยวฉันจะมาพร้อมกับลูกชายฉันอีกที"
ผมถามอาแปะว่าติดขัดตรงไหนพอที่จะให้ผมได้ชี้แจงอะไรก่อนได้มั่งครับ อาแปะตอบขึ้นว่า "ไม่ต้องฉัน ไม่ต้องการอะไรฉันได้ในสิ่งที่ฉันต้องการเรียบร้อยแล้ว" พูดแค่นั้นผมก็จัดแจงเดินไปส่งอาแปะโดยไม่ได้คิดอะไรเลยว่าอาแปะจะซื้อรถกับผมหรือไม่
เวลาประมาณเก้าโมงกว่า อาแปะนั่งรถ Benz มากับลูกชายเข้ามาจอดที่โชว์รูมแล้วเดินตรงเข้ามาเพื่อหาตัวผม ผมก็รีบออกไปต้อนรับเหมือนเดิมพูดคุยกันสามคนสักพัก อาแปะเลยหันไปถามลูกชายแกว่า "อาตี๋เอ็งต้องซื้อรถกับไอ้เซลส์คนนี้นะ รถที่อยู่ในโรงงานทั้งหมดก็ให้เซลส์คนนี้เป็นธุระะจัดการขายให้เลย"
ด้วยความที่ผมเองจะต้องถามลูกค้าเป็นปกติเพื่อเปิดช่องทางทางการขายให้มากขึ้นกว่าเดิมก็ถามอาแปะว่า "ไม่ทราบว่าอาแปะจะใช้รถเมื่อไร?สะดวกที่จะซื้อสดหรือไฟแนนซ์ดีครับ"
สิ่งที่ผมถามออกไปนั้นผมต้องการคำตอบแบบไหนท่านคงเข้าใจกันนะครับ "ฉันไม่มีเงินซื้อผ่านบริษัทไฟแนนซ์ฉันต้องการให้ลูกชายซื้อรถกับลื้อไปใช้สัก 27 คัน แล้วเปลี่ยนรถที่ใช้อยู่ขายออกไปให้หมดรบกวนเป็นธุระให้ฉันด้วย"
จบลงด้วยการซื้อขายรถกันและผมได้รู้ว่าอาแปะจะซื้อกี่คันและซื้อแบบไหนต้องการเปลี่ยนอะไรบ้างเป็นอันว่าเข้าใจทั้งสองฝ่าย ผมมารู้จากปากของลูกชายของอาแปะภายหลังว่าแกชอบผมที่ "การบริการและต้อนรับโดยไม่เลือกว่าใครเป็นใครบริการลูกค้าทุกๆรายเหมือนๆกันโดยไม่คิดที่จะขายรถ บริการด้วยจิตใจจริงๆ"
นี่เป็นประสบการณ์ที่เกิดกับตัวผมเองที่ผมประทับใจมาก ผมยังคงเก็บความทรงจำที่ดีๆนี้ไว้ มันไม่ใช่กฏเกณฑ์ที่ตายตัวในการขายและไม่ได้เป็นบรรทัดฐานของการทำงานขายทั้งหมด
จากประสบการณ์ที่ดีๆนี้ผมมีแนวคิดอยู่ 5 ประการ ซึ่งมันอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ของงานขายทั้งหมด แต่อยากให้ทุกๆท่านได้นำไปปรับใช้นะครับเรามาฟังกัน
1. เรามาทำหน้าที่ของ "เซลส์แมน" ขายรถ วันนี้ "ท่านทำหน้าที่" นี้ดีแล้วหรือยัง?
2. ท่านหา "โอกาส" ในการบริการและงานขายของท่านแล้วหรือยัง?
3. ท่านจะรู้หรือไม่ว่า "ลูกค้า" ทุกๆคนที่ท่านเจอมีโอกาสที่จะซื้อรถกันทุกคน
4. เป็น "เซลส์แมน" ท่านรู้ความหมายของคำๆนี้ดีแล้วหรือยัง?
5. โอกาสการ "ขาย" จะไม่เปิดถ้าท่านไม่เปิดโอกาสให้ตัวท่านเอง
2. ท่านหา "โอกาส" ในการบริการและงานขายของท่านแล้วหรือยัง?
3. ท่านจะรู้หรือไม่ว่า "ลูกค้า" ทุกๆคนที่ท่านเจอมีโอกาสที่จะซื้อรถกันทุกคน
4. เป็น "เซลส์แมน" ท่านรู้ความหมายของคำๆนี้ดีแล้วหรือยัง?
5. โอกาสการ "ขาย" จะไม่เปิดถ้าท่านไม่เปิดโอกาสให้ตัวท่านเอง
" จงมองหาโอกาสให้ตัวท่านเอง และจงอย่าปิดโอกาสของท่านเด็ดขาด เพราะท่านจะหมดสิทธิ์ในโอกาสนั้น"
ผมขอมอบสิ่งที่ดีๆ ให้ทุกๆ ท่าน ด้วยบทความที่เขียนบอกเล่าประสบการณ์ ให้ทุกท่านได้รู้ถึงวิธีคิดและวิธีการทำงานที่จะนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน และผมขอบมอบสิ่งที่ดีๆ ที่ทุกๆ ท่านให้กลับมา ขอ มอบให้กับผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุด ขอให้จิตใจอันดีอันบริสุทธิ์ของผมนี้ โปรดดลบันดาลความสุขทุกๆ อย่างให้กับเขา.....Ta......
ด้วยความปราถนาดีจาก
"โค๊ชเฒ่าเล่าเรื่อง"
สวัสดี
สวัสดี
