Monday, July 11, 2016

คนที่ไม่ตั้งใจจะซื้อกับคนไม่ตั้งใจขาย!!!!!!


                                                                                                                                          27/9/2559

มีเรื่องอยู่เรื่องนึงที่ผมอยากจะเล่าถึงประสบการณ์ที่ผมประทับใจมากที่อยากจะเล่าให้ทุกๆคนได้ฟัง มาฟังกันดูนะครับ
เมื่อ 20 กว่าปี ที่ผ่านมาในขณะนั้นผมยังทำหน้าที่ของ "เซลส์แมน" อยู่วันนั้นเป็นเวรประจำโชว์รูมมาทำงานแต่เช้ารับผิดชอบดูแลความสะอาดของรถโชว์ภายในโชว์รูมเหมือนกับเซลส์อื่นๆทั่วไป
ทำหน้าที่เช็ดรถทำความสะอาดอย่างตั้งใจไม่ใช่เพียงแค่เช็ดถูไปอย่างนั้นที่พอให้เสร็จไป

ในขณะทำความสะอาดรถไปสายตาก็เหลือบมองออกไปทางด้านหน้าโชว์รูมอยู่เสมอ ทันใดนั้นสายตาของผมก็เหลือบไปเห็นชายชราแก่ๆคนนึ่ง เดินออกกำลังกายผ่านหน้าโชว์รูมรถยนต์ เป็นปกติทุกๆเช้าแกเป็นคนจีนที่ชราอายุน่าจะประมาน 70 กว่าปี ผมเห็นแกจนชินตาอย่างนี้เป็นประจำในทุกเช้า
ด้วยความที่เป็น "เซลส์แมน" ที่จะต้องเป็นคนพูดจาปราศัยดีและต้อนรับลูกค้าทุกท่านโดยไม่เลือกว่าลูกค้าท่านนั้นจะเป็นใคร? ผมวางมือจากการทำความสะอาดรถทันที ดูว่าตังเองแต่งกายเรียบร้อยดีหรือยังแล้วจึงออกไปเปิดประตูโชว์รูม ผมถาม "อาแปะ" ว่าจะรับน้ำชาร้อนๆหรือน้ำเย็นๆครับ "ฉันขอเป็นน้ำชาร้อนๆก็แล้วกัน" พอได้น้ำชาร้อนๆผมก็รินน้ำชาส่งให้อาแปะ อาแปะรับน้ำชาไว้ผมก็ขออนุญาตไปทำหน้าที่เช็ดรถที่ค้างอยู่ต่อ แต่ก็ไม่ลืมที่จะดูว่าอาแปะต้องการอะไรเพิ่มเติม

พอกินน้ำชาเสร็จอาแปะก็ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินตรงมาหาผมบอกกับผมว่า "ไอ้ตี๋ ! ฉันขอขอบใจนะที่ดูแลฉันเป็นอย่างดี บังเอิญว่าฉันอยากจะได้รถใช้สักคันอีกประเดี๋ยวฉันจะมาพร้อมกับลูกชายฉันอีกที"

ผมถามอาแปะว่าติดขัดตรงไหนพอที่จะให้ผมได้ชี้แจงอะไรก่อนได้มั่งครับ อาแปะตอบขึ้นว่า "ไม่ต้องฉัน ไม่ต้องการอะไรฉันได้ในสิ่งที่ฉันต้องการเรียบร้อยแล้ว" พูดแค่นั้นผมก็จัดแจงเดินไปส่งอาแปะโดยไม่ได้คิดอะไรเลยว่าอาแปะจะซื้อรถกับผมหรือไม่

เวลาประมาณเก้าโมงกว่า อาแปะนั่งรถ Benz มากับลูกชายเข้ามาจอดที่โชว์รูมแล้วเดินตรงเข้ามาเพื่อหาตัวผม ผมก็รีบออกไปต้อนรับเหมือนเดิมพูดคุยกันสามคนสักพัก อาแปะเลยหันไปถามลูกชายแกว่า "อาตี๋เอ็งต้องซื้อรถกับไอ้เซลส์คนนี้นะ รถที่อยู่ในโรงงานทั้งหมดก็ให้เซลส์คนนี้เป็นธุระะจัดการขายให้เลย"

ด้วยความที่ผมเองจะต้องถามลูกค้าเป็นปกติเพื่อเปิดช่องทางทางการขายให้มากขึ้นกว่าเดิมก็ถามอาแปะว่า "ไม่ทราบว่าอาแปะจะใช้รถเมื่อไร?สะดวกที่จะซื้อสดหรือไฟแนนซ์ดีครับ"

สิ่งที่ผมถามออกไปนั้นผมต้องการคำตอบแบบไหนท่านคงเข้าใจกันนะครับ "ฉันไม่มีเงินซื้อผ่านบริษัทไฟแนนซ์ฉันต้องการให้ลูกชายซื้อรถกับลื้อไปใช้สัก 27 คัน แล้วเปลี่ยนรถที่ใช้อยู่ขายออกไปให้หมดรบกวนเป็นธุระให้ฉันด้วย"

จบลงด้วยการซื้อขายรถกันและผมได้รู้ว่าอาแปะจะซื้อกี่คันและซื้อแบบไหนต้องการเปลี่ยนอะไรบ้างเป็นอันว่าเข้าใจทั้งสองฝ่าย ผมมารู้จากปากของลูกชายของอาแปะภายหลังว่าแกชอบผมที่ "การบริการและต้อนรับโดยไม่เลือกว่าใครเป็นใครบริการลูกค้าทุกๆรายเหมือนๆกันโดยไม่คิดที่จะขายรถ บริการด้วยจิตใจจริงๆ"

นี่เป็นประสบการณ์ที่เกิดกับตัวผมเองที่ผมประทับใจมาก ผมยังคงเก็บความทรงจำที่ดีๆนี้ไว้ มันไม่ใช่กฏเกณฑ์ที่ตายตัวในการขายและไม่ได้เป็นบรรทัดฐานของการทำงานขายทั้งหมด

จากประสบการณ์ที่ดีๆนี้ผมมีแนวคิดอยู่ 5 ประการ ซึ่งมันอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ของงานขายทั้งหมด แต่อยากให้ทุกๆท่านได้นำไปปรับใช้นะครับเรามาฟังกัน


1. เรามาทำหน้าที่ของ "เซลส์แมน" ขายรถ วันนี้ "ท่านทำหน้าที่" นี้ดีแล้วหรือยัง?
2. ท่านหา "โอกาส" ในการบริการและงานขายของท่านแล้วหรือยัง?
3. ท่านจะรู้หรือไม่ว่า "ลูกค้า" ทุกๆคนที่ท่านเจอมีโอกาสที่จะซื้อรถกันทุกคน
4. เป็น "เซลส์แมน" ท่านรู้ความหมายของคำๆนี้ดีแล้วหรือยัง?
5. โอกาสการ "ขาย" จะไม่เปิดถ้าท่านไม่เปิดโอกาสให้ตัวท่านเอง


" จงมองหาโอกาสให้ตัวท่านเอง และจงอย่าปิดโอกาสของท่านเด็ดขาด เพราะท่านจะหมดสิทธิ์ในโอกาสนั้น"


ผมขอมอบสิ่งที่ดีๆ ให้ทุกๆ ท่าน ด้วยบทความที่เขียนบอกเล่าประสบการณ์ ให้ทุกท่านได้รู้ถึงวิธีคิดและวิธีการทำงานที่จะนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน และผมขอบมอบสิ่งที่ดีๆ ที่ทุกๆ ท่านให้กลับมา ขอ มอบให้กับผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุด ขอให้จิตใจอันดีอันบริสุทธิ์ของผมนี้ โปรดดลบันดาลความสุขทุกๆ อย่างให้กับเขา.....Ta......
               



                                                                                        ด้วยความปราถนาดีจาก
                  
           
                                                                                        "โค๊ชเฒ่าเล่าเรื่อง"
                       
                                                                                                    สวัสดี