Saturday, January 28, 2017
"สติ"
Monday, January 16, 2017
"ไกด์ตัวน้อย"
บทความนี้เขียนเพื่อเป็นการตอบแทนและขอบคุณทุกๆท่านที่ได้ร่วมบริจาคทำบุญกันมานะครับ มันเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆ ที่ผมนั้นพอจะทำให้ทุกๆท่านได้ และมันออกมาจากใจของผมทั้งหมด เรามาเข้าเรื่องกันเลยครับ ……
หลังจากเสร็จสิ้นจากภารกิจจากโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ผมแอบถือโอกาสตามแต่เวลานั้นที่พอมีเหลืออยู่ ออกหาประสบการณ์ใหม่ๆเพื่อจะได้มีเรื่องราวไว้เขียนบอกเล่าถึงสิ่งที่ได้พบเจอในการเดินทางครั้งนี้ให้กับทุกท่านได้รับรู้ถึงกลิ่นอายความรู้สึกราวกับว่าได้ท่องเที่ยวไปพร้อมๆกับผมครับ
ผมได้สอบถามจากเจ้าหน้าที่ที่ป่าไม้แถวนั้นและความจริงก็ปรากฏตรงหน้าผม ความจริงที่ว่ากลับตรงข้ามกับความคิดของผมเมื่อสักครู่นี้เลย "เด็กๆที่มายืนนั้นเขาไม่ได้หวังอะไรครับ เพียงแค่ยืนเพื่อให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเราที่แวะมาเที่ยวบ้านของเขาเท่านั้นเอง" เด็กๆเหล่านี้จะยกมือไหว้ให้การต้อนรับผู้มาเยือนแบบนี้เสมอ (คิดย้อนเมื่อสักครู่ความคิดของผมมันช่างเป็นความคิดที่ไม่ดีเลยจริงๆ สรุปเองคิดเองเออเองอะไรประมาณนั้นครับ)
มารยาทเด็กที่นั่นผมบอกเลยว่า "ยอดเยี่ยมมาก" (ซึ่งผิดกับที่ปรึกษาการขายหลายๆคนนะครับที่มารยาทนั้นผมยังรับไม่ได้เลย) อีกทั้งมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ที่ออกมาทางสีหน้าและแววตาของพวกเขาอย่างชัดเจน ถึงแม้ว่าจะมอมแมมไปบ้างแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ผมกลับคิดว่าเป็นเสน่ห์ที่น่ารักไปอีกแบบ แม้ว่าในมุมมองของเราทุกคนที่มองเขาเหมือนขาดโอกาสหลายๆอย่าง แต่ในความคิดของผมเด็กเหล่านี้ไม่ได้ขาดโอกาสใดๆเลย แต่เขากลับมีเพียบพร้อมทุกอย่าง และมีมากกว่าเราทุกคนด้วยซ้ำ สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัด คือการได้อยู่กับธรรมชาติสิ่งและแวดล้อมที่ดี อากาศที่บริสุทธิ์ การใช้ชีวิตที่ไม่ต้องแก่งแย่งชิงดีหรือเอารัดเอาเปรียบใคร ชาวกะเหรี่ยงไม่ได้เกียจคร้านในการทำงาน แต่ตรงกันข้าม
กลับมีความขยันอย่างมาก (เมื่อเทียบกับพวกเราวันๆ เอาแต่จะหาวันหยุดเพื่อพักผ่อน อาทิตย์หนึ่งจะมีวันหยุดให้เราได้พักวันไหน เราคิดเพียงเท่านี้จริงๆ)
เกริ่นกันซะนาน ..... เผลอแป๊บเดียวรถก็มาจอดยังที่หมายที่อยากจะมาซะที นั่นคือ "ถ้ำแม่อุสุ" ตามคำบอกเล่าของน้องๆพยาบาล ถ้ำแห่งนี้เป็นถ้ำที่มีสายน้ำไหลผ่านภายใน ระยะทางห่างจากโรงพยาบาลเพียง 10 กิโลเมตรกว่าๆ เท่านั้น สิ่งแรกที่สร้างความตื่นตาตื่นใจทันทีที่ได้มาถึง นั่นคือผืนป่าและขุนเขาน้อยใหญ่เรียงรายสลับกันไปมาสวยงามราวกับภาพเขียนเลยครับ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ สายน้ำที่ใสสะอาดไหลเย็นสดชื่น (เหมือนที่ท่านว่าไว้สายน้ำไม่มีวันหวนกลับย่อมไหลลงที่ต่ำเสมอ) จนมองเห็นปลาตัวน้อยใหญ่ได้อย่างชัดเจน บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าและต้นน้ำลำธารจริงๆ
จากการอ่านตามป้ายที่เขียนบอกไว้ระยะทางภายในถ้ำจนถึงทางออก รวมระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ดูแล้วมันไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับผมเลยครับ ว่าแล้วก็จัดแจงตัวเองเสร็จเรียบร้อยพร้อมในการเดินกันอีกครั้ง แต่ก่อนอื่นต้องทำตามธรรมเนียมของนักท่องเที่ยวกันก่อน นั่นคือการซื้อบัตรผ่านเพื่อที่จะได้เดินเข้าชมภายในบริเวณถ้ำได้อย่างอิสรเสรี อัตราค่าบริการนักท่องเที่ยวต่อคนก็ไม่แพงอย่างที่คิด ค่าบริการเพียงท่านละ 40 บาทเท่านั้น แต่ยังไม่จบครับยังมีข้อบังคับอย่างอื่นอีก คือ นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องมีไกด์เพื่อนำเที่ยวภายในถ้ำ อัตราค่าบริการของไกด์ก็แสนที่จะถูกมากๆครับ คือแล้วแต่เราจะให้กับไกด์เอง (ถูกของผมที่นี้ เป็นการถูกแบบกึ่งบังคับ แต่เป็นแบบบังคับให้ในที นี่เป็นกลยุทธ์อีกอย่างหนึ่งที่ควรจะนำไปใช้ในงานขายหรืองานศูนย์บริการของเราทุกคนได้เป็นอย่างดีคงพอที่จะเข้าใจนะครับ) และนี่ก็คือที่มาของเรื่องที่ผมจะเขียน
ตกลงกันเรียบร้อยผมก็ได้ไกด์ตัวน้อยๆเป็นผู้นำทางหนึ่งคนตามเกณฑ์ที่ทางอุทยานได้ว่าบอกเอาไว้ อ้อ!!!!!!ผมลืมที่จะบอกไป ชื่อเสียงเรียงนามของไกด์อย่าถามผมนะครับเพราะผมเป็นคนที่สมองไม่ค่อยจะดีนักดันลืมชื่อไกด์ของผมซะงั้น จำได้เพียงว่าไกด์ของผมเขาจะมีสองชื่อ คือชื่อไทยและชื่อกะเหรี่ยง และทั้งสองชื่อนี้ผมก็จำไม่ได้อีกนั้นแหละครับ เอาเป็นว่าเรามาเริ่มการเดินทางกันเลยดีกว่า
การเดินภายในถ้ำมีระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร แต่ยังไม่รวมถึงการเดินลัดเลาะหลังจากทะลุถ้ำไปแล้วนะครับ ยังมีที่ต้องเดินเที่ยวชมป่าอีกรวมเบ็ดเสร็จก็ประมาณ 7-8 กิโลเมตร เห็นจะได้ ระยะทางขนาดนี้ก็ถือว่าไกลอยู่เหมือนกันครับ
ระหว่างทางเดินไปคุยไปกับไกด์ตัวน้อยของผม คุยรู้เรื่องมั่งไม่รู้เรื่องมั่งตามประสา แต่รู้ไหมครับว่าเสน่ห์ของไกด์ตัวน้อยของผมมันอยู่ตรงที่คุยกันไม่ค่อยรู้เรื่องนี่หล่ะครับ เช่น เดินภายในถ้ำมาได้สักพักเราก็มาเจอหินที่อยู่ภายในถ้ำที่มีลักษณะที่คล้ายกับ "แม่กำลังอุ้มลูก" ไกด์ตัวน้อยของผมก็ไม่รอช้าที่จะนำเสนอสิ่งๆนั้นราวกับว่าเป็นเรื่องที่ขาดการอธิบายไม่ได้ (ท่านลองคิดดูนะครับว่าที่ทุกๆท่านนำเสนอสินค้าหรือรถยนต์ในราคาหลักแสนจนถึงหลักล้านนั้น ท่านได้ให้อะไรกับลูกค้าบ้าง หรือขาดหลักการที่สำคัญอะไรที่ไม่ควรจะขาดมันไปหรือเปล่า??????)
ว่าแล้วไกด์ของผมก็เริ่มนำเสนอสิ่งนั้นด้วยความตั้งใจพร้อมกับชี้ไม้ชี้มือให้ผมมองตาม พูดเสียงดังฟังชัดกึกก้องสะท้อนภายในถ้ำกลับมาให้ผมได้ยินว่า " แม่อู้ลู่ " โอ้!!!!!! เอาแล้วไงครับผมถึงกับงงทันที ที่งงนี้ไม่ใช่อะไรนะครับผมงงเพราะภาษาที่เขาพยายามสื่อสารให้ผมเข้าใจ ผมตั้งใจฟังกี่ครั้งๆก็ยังฟังไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจในสิ่งที่เขากำลังพูด (ทุกๆท่านขอให้เข้าใจนะครับเวลาที่ท่านอธิบายตัวรถหรืออธิบายอุปกรณ์ต่างๆหรือแม้กระทั่งรายละเอียดที่สำคัญๆ ขอให้อธิบายให้ลูกค้าของท่านได้เข้าใจไปพร้อมๆกับตัวท่านด้วยนะครับอย่าได้เอาตัวเองเป็นเกณฑ์เด็ดขาด)
ในเมื่อรู้ว่าผมไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด ไกด์ตัวน้อยก็เริ่มแสดงท่าทางที่สามารถสื่อให้ผมได้เข้าใจว่าสิ่งที่เขากำลังจะอธิบายนั้นมันคืออะไร เขาแก้ปัญหาด้วยการใช้ "ภาษากาย" และมันได้ผลครับมันมากกว่าความเข้าใจ คงไม่ต้องถามผมนะครับว่าผมถึงบางอ้อหรือยัง ผมตอบได้ชัดๆว่า ผมเลยบางอ้อไปอีก ต้องยอมรับว่าความฉลาดและไหวพริบของเขานั้นเกินอายุจริงๆ (ภาษาอีกภาษาที่ทุกท่านสามารถที่จะแสดงได้เป็นอย่างดีคือ ภาษากายนี่หล่ะครับ และท่านได้พยายามที่จะแสดงภาษากายของท่านด้วยความสุภาพอ่อนน้อมต่อลูกค้าของท่านแล้วหรือยัง? )
" มันไม่มีช่องว่างสำหรับภาษา แท้จริงแล้วภาษาสามารถสื่อสารหรือเชื่อมโยงกันได้ทุกๆภาษา และทำให้ทุกคนนั้นสามารถเข้าใจได้ถ้าหากใช้ความตั้งใจฟัง และเรียนรู้ให้มากๆเพียงเท่านั้นเอง "
เดินกันไปก็ชมความงามของหินภายในถ้ำแม่อุสุกันไป ในใจผมคิดว่าจะลองใจอะไรกับไกด์ตัวน้อยของผมดี คิดๆๆๆๆๆๆๆๆ อยู่สักพัก ความคิดของผมก็เกิดขึ้น ผมแกล้งพูดขอให้ไกด์ตัวน้อยพาผมได้เดินชมป่าให้ทั่วบริเวณถ้ำและเขาลูกนี้ทั้งหมด แล้วเดินลัดเลาะทะลุไปสู่ทางออกอีกด้านหนึ่งของถ้ำ รู้สึกถึงความคิดที่ไม่ดีของผมใช่ไหมครับ รู้ทั้งรู้ว่าไกด์ตัวน้อยของผมไม่มีรองเท้าใส่แล้วเขาจะตอบมาอย่างไร? และคำตอบนั้นเองทำให้ผมรู้สึกแปลกใจอย่างมากไม่นึกไม่ฝันเลยว่าเขาจะตอบกลับออกมาแบบนั้น
โอ้วววววว!!!!!!!!!! เหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจผมเลยครับ ไกด์ตัวน้อยของผมเองไม่รีรอตอบรับตามคำขอของผมในทันทีแบบไม่มีเงื่อนไขใดๆซะด้วย มันเป็นสิ่งที่ผมไม่อยากได้ยินนะสิ เพราะในใจของผมไม่ได้คิดอยากที่จะเดินป่าเอาซะเลย จะให้ผมทำอะไรได้หล่ะครับก็ผมพูดออกไปแล้วก็ต้องตามนั้น!!!!!!!!!!!!!!!
พาผมเดินป่าเป็นระยะทางอีกประมาณ 3-4 กิโลเมตร สภาพโดยรวมของเส้นทางการเดินป่าค่อนข้างลำบากพอสมควร น้ำที่จะดื่มกินก็ไม่มีและไม่ได้เตรียมไปด้วย บวกกับตอนนั้นผมได้เลิกสูบบุหรี่หลังจากที่สูบมาเป็นระยะเวลาเกือบๆ 30 ปีเห็นจะได้มันทำให้ผมเหนื่อยง่ายกว่าปกติครับ ด้วยความกระหายผมจำเป็นที่ต้องดื่ม “น้ำในลำธารแทน” เมื่อความกระหายหายไปมันทำให้ผมนึกถึงสมัยเด็กๆ ตามประสา "คนบ้านนอก" ที่น้ำท่าต่างๆสามารถหากินได้ตามห้วยหนองคลองบึง ปราศจากสารเคมีเจือปน สามารถดื่มน้ำได้ตามใจชอบ แต่การได้เดินป่า ปีนเขาเดินลัดเลาะตามเส้นทางชันๆในครั้งนี้ มันมีแต่สร้างความสุขให้กับผม รู้สึกเหมือนผมได้ปลดปล่อยทุกอย่างที่แบกไว้มานานและทิ้งมันไว้ที่นี่ ร่างกายของผมไม่ว่าจะเป็นสุขภาพ ระบบการหายใจ ถูกรักษาด้วยอากาศและธรรมชาติที่บริสุทธิ์ของที่นี่เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
ทุกชีวิตและลมหายใจนั้นมีคุณค่า ผมในฐานะผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกคนคงรู้สึกได้ไปกับธรรมชาติ รู้สึกถึงสายสัมพันธ์อันดีของชนชาวกะเหรี่ยงและมีความสุขไปกับการอ่านบทความนี้นะครับ
ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ที่ :
Monday, January 2, 2017
"แพ้เพื่อเริ่มต้น"
ในวาระปีใหม่นี้ผมขอฝากบทความนี้เพื่อเป็นของขวัญสำหรับทุกๆท่าน...ขอให้ปี ๒๕๖๐ นี้จงเป็นปีไก่ทองสำหรับทุกๆท่านนะครับ..........
" ความผิดพลาดทำให้เกิดความพ่ายแพ้ "
คนเราถ้าหากว่ารู้จักเรียนรู้การยอมรับใน " ความพ่ายแพ้และความผิดพลาด " ได้คงเป็นสิ่งดีไม่ใช่น้อยๆเลย เพราะไม่มีใครที่จะ " ชนะ " ได้ทุกๆเรื่องทุกๆอย่างๆแน่นอน คนเรามีทั้งชนะและพ่ายแพ้สลับกันไป แต่มันอยู่ที่ว่าถ้าหากเราพ่ายแพ้มา สิ่งหนึ่งที่เราจะปรับปรุงแก้ไขในข้อผิดพลาดเราจะแก้ไขให้มันดีขึ้นในปัจจุบันนี้ได้อย่างไรนี่คือประเด็นสำคัญ
การยอมรับในความผิดพลาดพ่ายแพ้ในมุมคิดของผมมันเป็นสิ่งที่ดี ที่เรานั้นได้ "แพ้บ้างผิดพลาดบ้าง" เพื่อได้เห็นข้อบกพร่องของตัวเอง และสิ่งที่ตัวเราได้จากการแพ้ทำให้เราได้เรียนรู้กับหลายๆสิ่งหลายๆอย่างมากมายเช่น
▪เรียนรู้ที่จะอดทนอดกลั้นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
▪เรียนรู้คนรอบข้างอย่างละเอียดรอบครอบมากขึ้น
▪เรียนรู้ที่จะยอมรับในสิ่งที่แพ้นั้นได้และปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น
▪เรียนรู้การอยู่กับตัวเองมากขึ้น ให้เวลากับตัวเอง วิเคราะห์สิ่งต่างๆที่ตัวเรานั้นได้กระทำลงไป
▪เรียนรู้ถึงความพ่ายแพ้ในวันนี้เพื่อทำวันข้างหน้าให้ดีขึ้นกว่าเดิม
▪เรียนรู้ที่จะเข้าใจบุคคลอื่นมากขึ้น
▪เรียนรู้ทักษะที่มีอยู่ในตัวเราที่เราไม่เคยรับรู้เลยว่ามี และรู้วิธีที่จะใช้มันให้เกิดประประโยชน์มากที่สุด
▪เรียนรู้การเสียสละเวลาของตัวเองมากขึ้น
"ไม่มีใครที่อยากจะแพ้ และผิดพลาด ในชีวิตแน่นอน ถ้าเป็นไปได้ขอโอกาสให้เขาได้แก้ไขให้ดีอีกสักครั้ง"
ฯลฯ
..........................................................
"คนดีนั้นชอบแก้ไข คน.....ชอบแก้ตัว"
ผมขออนุญาตที่จะให้ความหมายของคำๆนี้ตามแบบฉบับของผมให้ได้อ่านกันบ้างนะครับ เราใด้หรือเสียอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้บ้างสำหรับตัวผมเองนั้น " ผมคิดว่าผมได้มากกว่าเสีย "
▪ได้ให้เวลากับความคิดตัวเองเพิ่มมากขึ้น และมองความคิดของคนใกล้ตัวเพิ่มมากขึ้น
▪ได้เรียนรู้การวิเคราะห์ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างแน่ชัดและชัดเจน
▪ได้เรียนรู้ที่จะเคารพ "สิทธิ์" ของคนอื่นและคนใกล้ตัวรวมถึงตัวเองมากขึ้น
▪ได้เรียนรู้จักการให้เกียรติผู้อื่น คนใกล้ตัวและตัวเองมากยิ่งขึ้น
▪ ได้เรียนรู้และยอมรับคุณค่าของคนเพิ่มมากขึ้น
▪ และที่สำคัญได้ปรับปรุงแก้ไขสิ่งที่ทำผิดพลาดมา แก้ไขปัจจุบันให้ดีขึ้น
"ความพ่ายแพ้และความผิดพลาด" ผมคิดว่ามันเกิดกับทุกๆคนแน่นอน ถ้าหากเราได้นำกลับไปวิเคราะห์กันว่า "เราจะหาทางแก้ไขข้อผิดพลาดหรือความพ่ายแพ้นั้นอย่างไร" หากเกิดปัญหาหรือเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นเราจะไม่ได้คิดและทำแบบเดิมๆที่เคยทำมาและจะไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำซากอีกครั้งกับตัวเราและบุคคลอื่นอีกเป็นอันขาด
" ผมมีความรู้สึกดีๆเสมอในการให้ความเคารพกับสิ่งที่ได้ทำผิดพลาดและความพ่ายแพ้กลับมา เคารพและให้การยอมรับความพ่ายแพ้นี้ " ไม่มีใครสามารถที่จะย้อนเวลาเพื่อทำสิ่งต่างๆที่ผ่านมาแล้วได้ แต่เราสามารถที่จะใช้เวลาที่เหลืออยู่เพื่อเดินหน้าแก้ไขสิ่งต่างๆให้ดีขึ้นมาใหม่ได้
บทความนี้เป็นบทความๆหนึ่งที่อยากจะสื่อหรืออยากที่จะบอกแต่เพียงว่าความพ่ายแพ้นั้นมีประโยชน์อยู่ไม่น้อยเลยถ้าหากเราเองคิดและมองในแง่บวกกัน สิ่งที่ได้เขียนในบทความนี้ผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาที่จะให้ร้ายหรือว่ากล่าวใครทั้งสิ้นเพียงแต่เป็นการเตือนสติผู้ที่ได้อ่านบทความนี้เท่านั้น ดังนั้นจึงขอประทานโทษมา ณ ที่นี้ด้วย
สิ่งหนึ่งสิ่งใดในบทความนี้ถ้าหากสิ่งไหนสิ่งใดเป็นประโยชน์ในการอ่าน ผมขอส่งสิ่งอำนวยอวยชัยผ่านไปยังคนอันเป็นที่รักของผมขอให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงคิดสิ่งไหนขอให้ได้สมตามปราถนาทุกประการ
ด้วยความปราถนาดีจาก
"โค๊ชเฒ่าเล่าเรื่อง"
สวัสดี
ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ :
▪www.โค๊ชเฒ่าเล่าเรื่อง.com
▪Fb.songrit songrit
▪Id Lind.taaoo429
▪หรือผ่านทาง Google พิมพ์คำว่า โค๊ชเฒ่าเล่าเรื่อง






