ในบทความที่แล้วผมได้กล่าวถึงเรื่อง "ลูกน้อง เหมือนแขนขา"
ในส่วนของบทนี้จะเขียนถึงความสำคัญของ "ลูก และภรรยา" กันนะครับเผื่อว่าทุกคนจะได้แนวคิดเรื่องการครองเรือนเพิ่มมากขึ้น
ความเป็นมาเป็นไปของคนเราที่กำเนิดเกิดมาต้องมีเนื้อคู่แล้วต่อเติมสายสัมพันธ์กันมานั่นก็คือ "ลูก" และนั่นก็คือความหมายของคำว่า "ครอบครัว"
ครอบครัวเป็นสังคมที่เล็กๆแต่เป็นสังคมที่ยิ่งใหญ่และสำคัญอย่างมาก ของการกำเนิดเกิดก่อความสำคัญของคนขึ้นมา
"ลูก และภรรยา เหมือนเสื้ออาภรณ์" ที่สวยงามเป็นหนึ่งท่วงทำนองที่สวยงามขององค์ประกอบที่แสนจะสมบูรณ์ที่สุดของการมีชีวิตคู่และการดำเนินชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
การมีศรีภรรยาเป็นคู่คิด,คู่ที่จะช่วยเราแก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างน่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง ท่านคิดเหมือนผมหรือไม่ครับ?
แม้ในยามที่เราหมดปัญญาคิด ภรรยา(เมีย)นี่แหละครับจะเป็นคนที่จะช่วยคลี่คลายปัญหาต่างๆให้สามารถผ่านพ้นไปได้
ส่วนลูกก็เป็นโซ่ทองคล้องใจที่คอยเป็นแก้วตาดวงใจสร้างกำลังใจให้กับเรา ยิ่งคนที่ทำงานหนักๆกลับมาบ้านเมื่อไหร่นะครับความเหน็ดเหนื่อยนั้นมันหายไปจากเราเหมือนปลิดทิ้งไปเลยคุณคงมีความรู้สึกแบบนี้กันนะครับและลูกๆยังสามารถที่จะสร้างกำลังใจในการทำงานหรือต่อสู้ต่อปัญหาที่ท่านนั้นได้เจอมาได้อย่างยอดเยี่ยม
โดยทั้งสามคนกลายเป็นความหมายของคำว่า "ครอบครัว" ที่แสนจะอบอุ่นมากที่สุดในชีวิต
ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ตัวผมเองมีแต่ภรรยานะครับแต่ผมยังไม่มีลูกเลยสักคนเดียว (อยากมี) ลองมาฟังเหตุผลผมของคนอย่างผมบ้างกันนะครับว่ามันจะเป็นยังไง???
การที่เราได้อยู่ร่วมกันมานับเป็นเวลาหลายสิบปีมาแล้วผมยังไม่มีลูกเอาไว้เป็นพยานรักเลยแต่ผมเองก็มีความสุขใจเสมอทีเราได้อยู่กับภรรยาของผม ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันบ้างนั่นก็เป็นปัญหาเล็กๆน้อยๆตามประสาของ "ลิ้นกับฟัน" ย่อมมีกระทบกระทั่งกันบ้างแต่สิ่งหนึ่งที่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมั่นใจคือ "ความเข้าอกเข้าใจกัน" ซึ่งไม่ว่าจะมีลูกหรือไม่มีก็ตามผมมีสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะให้ทุกๆครอบครัวมีกัน คือ ความเข้าใจกันมันเป็นมากกว่ายาที่ใช้รักษาโรคที่ร้ายแรงได้
ผมคติประจำใจของผมเอง มีอยู่เพียง 3 คำเท่านั้นนะครับ คือ "เอา เข้า ไว้"
อย่าเพิ่งหาว่าผมนั้นพูดจาหยาบคายนะครับลองมาฟังความหมายของแต่ละคำกันดูครับ...
คำที่ 1. คือ "เอา" ในที่นี้หมายถึง "การเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน" จะสุข หรือจะทุกข์หนักขนาดไหนก็ตาม จะต้องดูแลเอาใจใส่กันเสมอๆ
คำที่ 2.คือ "เข้า" ในที่นี้หมายถึง "การเข้าใจซึ่งกัน และกัน" ไม่ว่าเหตุการณ์ไหนๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตคู่ ทุกๆคู่จะต้องเข้าใจกันและกัน
คำที่ 3.คือ "ไว้" ในที่นี้หมายถึง "การไว้เนื้อเชื่อใจกัน และกันเสมอ"
ไม่ว่าจะเป็นสามีหรือภรรยา การไว้เนื้อเชื่อใจกันนี้สำคัญไม่แพ้ทั้ง 2 คำข้างต้นที่กล่าวมา สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทั้งคู่จะต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน
นี่คือความหมายของคำ ทั้ง 3 คำ ฟังดูแล้วความหมายนั้นดีใช้มั๊ยครับผมคงไม่ได้พูดจาหยาบคายอะไรนะครับ
แต่สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้น(ส่วนมากจะเป็นชายมากกว่า)มักมีการนอกใจภรรยาสุดที่รักกันอยู่บ้างเป็นบางครั้งบางคราว อาจเผลอจิตใจไปแบ่งปันให้กับหญิงอื่นกันบ้างตามนิสัย "ผู้ชายไม่เจ้าชู้ เปรียบเสมือนงูไม่มีพิษ ผมเองก็เป็นครับไม่ได้ปฏิเสธอะไร แต่ก็นั่นหล่ะครับมันเป็นเพียงอารมย์ชั่ววูบเท่านั้นเอง
แต่บางครั้งบางทีท่านหรือผมเองอาจจะรักเลยก็มีนะครับ อย่าได้ทำเป็นเล่นไป ผมเองเคยผิดพลาดเรื่องอย่างนี้มาเยอะพอสมควรเจอทั้งผู้หญิงที่ดีๆ(นี่ควรจะเก็บรักษาเอาไว้อย่างดี คิดแต่สิ่งดีๆกับเขานะครับ) มามาก
แต่ก็หล่ะครับมันเป็นช่วงของเวลาเท่านั้นเองแต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดมาเพื่อหลอมรวมตกแต่งอย่างดียิ่ง ออกมาเป็น "ครอบครัว" ที่แสนจะอบอุ่น
ผมรู้สึกชื่นชมกับทุกๆท่านนะครับที่พวกท่านนั่นมีครอบครัวที่อบอุ่นกันทุกๆคน
ทุกๆครั้งที่ผมนึกถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาในห้วงชีวิตและห้วงสำนึกในใจก็จะนำมาเขียนบอกเล่าให้กับทุกๆท่านได้มีจิตสำนึกรักกันอย่างนี้เสมอๆนะครับ
ทุกอย่างที่ผมได้เขียนบอกเล่าทั้งประสบการณ์ดีๆและไม่ดีเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้ท่านได้ฟังนี้ สิ่งไหนที่ดีๆผมขอมอบสิ่งดีให้ท่านก็แล้วกันนะครับ ส่วนสิ่งที่ไม่ดีไม่มีประโยชน์ที่จะนำไปใช้ได้ขอส่งคืนมาที่ผมนะครับ
สิ่งที่ดีงามทั้งหมดนี้ที่ทุกท่านได้รับไป ผมขอสิ่งที่ท่านได้รับนี้ส่งผลให้กับผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุด....Ta.....รักและห่วงใยมาก
ด้วยความปราถนาดีจาก
"โค๊ชเฒ่าเล่าเรื่อง"
สวัสดี
No comments:
Post a Comment